View Full Version : การทำงานของหมาใน ๒
นักเรียนน้อย
19th June 2012, 09:03 AM
นักเรียนน้อย (http://www.birdholiday.com/forums/member.php?44-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2)
นายพันร่ายทุ่ง
การทำงานของหมาใน๑...
จัดให้ตามที่ขอ ประมาณนี้ไหวไหมครับ นายจ่อย *** ฉบับทดลอง... ได้โปรดแนะนำและวิจารณ์ครับ ***
๑...
ความเฉอะแฉะเปียกชื้นทำให้หลายคนไม่ชอบเดินทางท่องป่าในหน้าฝน บางคนถ้ารู้ว่าต้องมาเผชิญกับกองทัพทากก็พลอยให้งดเข้าป่าหน้านี้ไปเลย
ความจริงป่าแต่ละฤดูมีเสน่ห์มีความงามในแบบฉบับของตัวเอง หน้าฝนป่าเขียวขจีมีน้ำท่าอาหารอุดมสมบูรณ์ เป็นฤดูกาลแห่งความสุขของสรรพชีวิตในป่าใหญ่คนที่เข้าป่าหน้าฝนอาจจะลำบากอยู่บ้าง แต่อุปสรรคก็มีไว้ให้ฝ่าฟันมิใช่หรือ!
บ่อน้ำมหัศจรรย์ยังเป็นตัวเลือกแรกสำหรับการเรียนรู้ ถึงตอนนี้นกจะมีที่ให้เลือกไปใช้น้ำได้มากมาย แต่ผมก็เลือกมาเฝ้ารออยู่ในบังไพรเผื่อว่าจะพบเห็นพฤติกรรมใหม่ๆ ของนกที่อาจต่างไปจากในฤดูแล้ง รวมทั้งอาจมีนกหรือสัตว์ชนิดใหม่มาใช้น้ำ
ฝนโปรยละอองมาตั้งแต่เช้า แม้จะหยุดตกในตอนสายแต่ท้องฟ้าก็ยังอึมครึม สำหรับคนเดินทาง-ถ่ายภาพมันเป็นช่วงเวลาเหงาๆที่ต้องพบกับสภาพอากาศที่ยากยิ่งต่อการทำงาน
ตลอดทั้งวันมีแค่นกจับแมลงจุกดำกับนกระวังไพรปากเหลืองที่มาเล่นน้ำ จนกระทั่งหลังห้าโมงเย็น ผมก็ได้ยินเสียงร้องที่เริ่มคุ้นเคยเมื่อออกมาใช้ชีวิตในป่าใหญ่
เป๊บ ๆๆ เสียงร้องแสดงอาการตื่นตกใจของกวางป่าดังแว่วมา บางทีมันอาจจะเจอสัตว์แปลกหน้าอย่างมนุษย์ หรือกำลังถูกไล่ต้อนจากสัตว์ผู้ล่า
เสียงกวางป่าเงียบหายไปได้ไม่นานก็ดังขึ้นอีก คราวนี้มันร้องถี่ขึ้นและนานกว่าเดิม ผมจึงเก็บของรีบรุดออกจากบังไพรตั้งใจจะขับรถตามไปดูเหตุการณ์
ระหว่างทางก่อนถึงที่จอดรถพี่หวอก็ขับรถสวนทางมาและร้องบอก “ไปๆ ขึ้นรถ หมาในกำลังกัดกวาง” ผมกระโดดขึ้นกระบะหลังรถทันที
เรามุ่งหน้าตามเสียงกวางป่าไปได้พักเดียวก็มาถึงที่เกิดเหตุ ความจริงพี่หวอมาพบเหตุการณ์ก่อนผม แต่ฟิลม์หมดไม่มีสำรองจึงต้องย้อนกลับไปเอาที่บ้านพักผมเลยพลอยโชคดีมาทันเห็นเหตุการณ์
เรากึ่งเดินกึ่งวิ่งไปอีกราว ๓๐๐ เมตรก็ถึงริมน้ำ มีหมาใน ๓ ตัวกำลังไล่กัดกวางป่าอยู่ในน้ำ หมาใน ๒ ตัวเลือกกัดที่ส่วนหน้าบริเวณดวงตาทั้งสองข้างของกวางป่า
อีกตัวหนึ่งกัดอยู่ที่ขาหลัง มีอีกตัวเดินไปมาอยู่บนฝั่งด้านตรงข้ามกับจุดที่เรายืนอยู่ โชคดีที่ตรงนั้นเป็นพุ่มไม้ใหญ่ให้พอได้อาศัยหลบซ่อนตัว แต่โชคร้ายคือเราไม่มีจุดที่จะถ่ายภาพได้ดีๆ มีกิ่งไม้บังไปหมด รวมทั้งต้นกกที่อยู่ริมน้ำก็สูงจนบดบังบริเวณที่หมาในกำลังไล่ล่ากวางป่า
กวางป่าตัวเมียขนาดโตเต็มที่ไม่ยอมตกเป็นเหยื่อง่ายๆ มันสลัดตัวที่กัดขาหลังจนหลุดและหนีลงไปในน้ำลึกกว่าเดิม ทว่ายังเหลือหมาในที่กัดอยู่ที่ดวงตาทั้งสองข้าง
กวางป่าสะบัดหัวไปมาหลายครั้ง แต่ไม่อาจสลัดหลุดปากหมาในที่งับติดแน่น จนเมื่อกวางป่าสะบัดหัวขึ้นอย่างแรงส่งตัวหมาในลอยพ้นผืนน้ำขึ้นไปในอากาศ
พอสะบัดอีกครั้งจึงเป็นอิสระและดิ้นรนหลบหนี แต่ก็ถูกฝูงหมาในเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง
พี่หวอช่วยรั้งกิ่งไม้ออกให้ผมถ่ายภาพก่อน ผมต้องเขย่งยืนด้วยปลายเท้า กลั้นลมหายใจเกร็งข้อมือซ้ายประคองเลนส์ ส่วนมือขวาพยายามกดชัตเตอร์อย่างมั่นคงที่สุด
เพราะขาตั้งกล้องหมดสิทธิ์ใช้งานในสภาพนี้
เวลาผ่านไปไม่น้อยกว่า ๑๕ นาที ฝูงหมาในดูอ่อนล้าจากการทำงานที่ต้องใช้พละกำลังมากเป็นพิเศษ เพราะต้องว่ายน้ำเข้าโจมตี การเคลื่อนที่ของหมาในเริ่มช้าลง
มี ๒ ตัวหมดแรงอย่างเห็นได้ชัดและลอยคอกลับขึ้นฝั่ง แต่ตัวที่ดูจะมีขนาดใหญ่กว่าเพื่อนยังไม่ยอมเลิกรา ผมเดาเอาว่ามันน่าจะเป็นจ่าฝูง ถึงดูอ่อนแรงแต่ยังคงว่ายน้ำเข้าจู่โจมกระโดดขึ้นตะปบหลังเหยื่อเคราะห์ร้ายอย่างไม่ลดละ เที่ยวแล้ว เที่ยวเล่า ดูเหมือนว่าหากเหยื่อไม่ล้ม มันก็ไม่ยอมเลิกรา
แม้กวางป่าจะดูได้เปรียบตรงที่ตัวสูงพอจะยืนอยู่ในน้ำได้ ส่วนหมาในต้องว่ายน้ำและเหลือไล่ล่าอยู่เพียงตัวเดียว แต่หนทางของกวางป่าก็ดูมืดมิด เพราะมันได้สูญเสียดวงตา
ไปทั้งสองข้าง เลือดผสมกับน้ำไหลเป็นทางออกมาจากบริเวณดวงตาของเหยื่อเคราะห์ร้าย เหี้ยตัวใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้นมาตั้งแต่แรกยังคงว่ายน้ำวนไปเวียนมาอยู่รอบๆ มันคงรู้ว่าอีกไม่นานจะมีอาหารที่เป็นผลพลอยได้จากการทำงานของหมาใน
ก่อนหน้านี้ผมเคยเห็นฝูงหมาในไล่ลูกกวางป่าไปจนมุมที่ชายน้ำ หมาใน ๒ ตัวกัดที่บริเวณหน้า อีกตัวหนึ่งกัดเข้าที่ขาหลัง หมาในจัดการเหยื่อได้อย่างรวดเร็วและช่วยกันลากเหยื่อขึ้นจากน้ำ แม้แม่กับกวางพี่เลี้ยงจะเข้าไปช่วย แต่ก็ช่วยแบบกล้าๆ กลัวๆ หมาในจึงลากเหยื่อผ่านหน้าไปอย่างไม่สะทกสะท้านหายลงไปในหุบติดลำธาร เหตุการณ์คราวนั้นเกิดขึ้น
เร็วมาก ผมเห็นแค่ว่าหมาในกัดเหยื่อแบบไหน มาคราวนี้ถึงผมไม่เห็นเหตุการณ์มาตั้งแต่ต้น แต่ก็เริ่มปะติดปะต่อการทำงานของหมาในได้บ้าง ในการจู่โจมจะมีหมาในตัวหนึ่งคุมเชิงอยู่รอบนอกคอยเป็นยามระวังภัยให้กับฝูงที่กำลังทำงาน ส่วนหน่วยจู่โจมเมื่อเข้าประชิดตัวเหยื่อ พวกหนึ่งจะเข้ากัดที่ดวงตาเพื่อทำลายการมองเห็น เหยื่อจะได้หนีลำบาก อีกพวกหนึ่ง
จะกัดบริเวณขาหลังเพื่อจะให้เหยื่อล้ม หากเหยื่อล้มลงหมาในจะรุมเล่นงานได้ง่ายขึ้น
หลังจากล้างฟิลม์สไลด์มีภาพที่บอกเล่าเรื่องราวได้ดีอยู่ภาพหนึ่ง เพื่อนฝูงหลายคนมีโอกาสได้เห็น หลายคนเบือนหน้าหนีและบอกว่า... ทำใจยอมรับได้ยาก
ฉากชีวิตที่เห็นอาจจะดูทารุณและโหดร้าย แต่เราต้องเปิดใจให้กว้างเพื่อทำความเข้าใจ มันเป็นเรื่องปรกติของวิถีชีวิตในธรรมชาติ ทุกชีวิตต่างมีหน้าที่ของตนเอง สำหรับหมาในนี่เป็นเพียงแค่การทำงานเพื่อดำรงชีวิต หนึ่งชีวิตเพื่ออีกหลายชีวิตจะอยู่รอด เมื่อภาพปรากฏออกไปในวงกว้าง ผมได้รับคำถามตามมาไม่น้อย...
*** ปรับปรุง ตามคำแนะนำครับ **
ภาพ “การทำงานของหมาใน” ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก เมื่อนำไปแสดงในงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๔ หลังจากที่ได้รับรางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากการประกวดภาพถ่ายอนุรักษ์ธรรมชาติ “สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ” ของกรมป่าไม้ในปีนั้น
ในงานมีคนถามหลายเรื่อง คนที่สนใจการถ่ายภาพมักถามว่า “ไปถ่ายมาได้ยังไง” แต่คนทั่วไปจะถามว่า “กวางตัวนั้นรอดหรือเปล่า” หรือ “คิดจะช่วยกวางบ้างไหม” และ “กวางถูกล่าแบบนี้จะไม่หมดไปจากป่าหรือ” ฯลฯ ผมไม่แน่ใจว่าคนส่วนใหญ่ที่ตั้งคำถาม เคยเห็นหมาในตัวจริงในธรรมชาติมาก่อนหรือไม่ แต่ผมพอจะสรุปได้ว่า พวกเขามีทัศนคติในแง่ลบกับหมาใน เรื่องนี้ไม่แปลกใจนัก เพราะแม้แต่คนที่เคยเห็นหมาในตัวเป็นๆ ก็ยังตั้งข้อสังเกตต่างๆ กันไป บางคนว่ามันเป็นนักล่าที่ฆ่าเหยื่อเป็นว่าเล่น ฆ่าแล้วก็กินทิ้งกินขว้าง จากนั้นก็หันไปล่าเหยื่อตัวใหม่ บางคนเคยเจอฝูงหมาในเพ่นพ่านไม่ไกลจากบ้านพัก หรือบางครั้งเห็นมันไล่ล่าเหยื่อเข้ามาใกล้คนที่เฝ้าดูอยู่ต่อหน้าต่อตา ก็สรุปเอาว่าพวกมันไม่กลัวใคร แม้แต่มนุษย์ กิตติศัพท์ของหมาในจึงมีแต่ด้านที่ร้ายๆ
แม้ผมจะไม่เห็นด้วยกับอคติที่คนส่วนใหญ่มีต่อหมาใน แต่ด้วยประสบการณ์อันน้อยนิด ทำให้ผมไม่อาจโต้แย้ง ผมจึงออกติดตาม ค้นหา และเรียนรู้ชีวิตของหมาใน เพื่อหาคำตอบให้กับข้อกล่าวหา รวมทั้งข้อสงสัยส่วนตัวอีกหลายเรื่อง แต่กว่าที่ผมจะพูดได้ว่าพอรู้จักพวกมันบ้าง ก็ต้องใช้เวลากว่า ๓ ปี...
นักเรียนน้อย
19th June 2012, 09:07 AM
หลังจากเห็นการทำงานของหมาใน ๒ ครั้งในต้นฤดูฝน พอเข้าฤดูหนาวผมก็ออกแกะรอยหมาในในบริเวณรอบๆ ทุ่งกะมังและหน่วยพิทักษ์ป่าศาลาพรม ซึ่งทั้งสองจุดอยู่ห่างกันราว ๑๘ กิโลเมตรถ้าวัดจากระยะทางตามถนน
ผมเริ่มด้วยการสอบถามเจ้าหน้าที่ของเขตฯ ว่าเห็นหมาในปรากฏตัวอยู่ที่ไหนบ้าง อีกทางหนึ่งผมได้ข้อมูลจาก คุณลอน กราสแมน เพื่อนนักวิจัยที่กำลังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก งานส่วนหนึ่งของเขาคือดักจับสัตว์ผู้ล่าแล้วติดปลอกคอที่มีเครื่องส่งสัญญาณวิทยุขนาดเล็ก (Radio-collar) เพื่อช่วยในการบอกตำแหน่งและกิจกรรมในรอบวันของสัตว์ ซึ่งหมาในเป็นหนึ่งในสัตว์ที่เขาศึกษา
ข้อมูลจากคุณลอนทำให้รู้พื้นที่หากินของหมาใน ส่วนใหญ่จุดที่จับสัญญาณได้อยู่ในป่าทึบและเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามการเดินทางหากินของหมาใน
ในฤดูหนาวพืชอาหารจะลดลง กวางป่าที่กระจายตัวหากินอยู่ทั่วไปจะมุ่งหน้ามาหากินอยู่รอบๆ บริเวณหน่วยฯ ศาลาพรมซึ่งมีทั้งน้ำและอาหาร โดยเฉพาะลานหญ้าใกล้ๆ บ้านพัก มีกวางป่ามารวมฝูงกว่า ๕๐ ตัว... เมื่อสัตว์กินพืชมารวมตัวกัน สัตว์ผู้ล่าก็มักจะตามมา
นักเรียนน้อย
19th June 2012, 09:10 AM
ต้นฤดูหนาวหมาในออกทำงานที่ศาลาพรมบ่อยมาก เพราะมีกวางป่าให้เลือกตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ หมาในจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อล่าเหยื่อให้ได้ โดยมักจะส่งสมาชิกเข้าไปก่อกวนในฝูงกวางป่า พยายามไล่กวางป่าที่หมายตาให้หนีไปทางฝูงหมาในที่หลบอยู่ตามแนวชายป่า แต่มักจะไม่ได้ผล กวางป่ารู้ทันไม่ยอมแตกฝูง
มีเหมือนกันที่หมาในวัยรุ่น ๓ ตัวช่วยกันแยกลูกกวางป่าออกมาได้ แต่หมาใน ๒ ตัวต้องคอยสกัดแม่และกวางป่าพี่เลี้ยง หลังจากเล่นไล่จับกันอยู่นาน หมาในตัวเดียวที่ด้อยประสบการณ์ก็ทำอะไรลูกกวางป่าที่ตัวโตกว่ามันนิดเดียวไม่ได้
ลูกกวางป่าตัวเล็กๆ เมื่อถูกจู่โจมจะตื่นตกใจทำอะไรไม่ถูก หากผลัดหลงจากแม่ก็มักจะตกเป็นเหยื่อ บางตัวหนีการไล่ล่าลงไปในน้ำจนรอดพ้นเงื้อมมือของหมาใน แต่กลับต้องจบชีวิตเพราะจมน้ำตาย
เท่าที่พบส่วนใหญ่หมาในล่าเหยื่อไม่สำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อกวางป่าหนีลงน้ำจะรอดพ้นจากการตกเป็นเหยื่อ จนผมคิดว่ากวางป่าหนีลงน้ำเพื่อความได้เปรียบที่ตัวสูงกว่ายืนอยู่ในน้ำได้ หากหมาในตามลงไปในน้ำจะไล่ล่าลำบากและสูญเสียพละกำลังมาก เพราะต้องว่ายน้ำเข้าโจมตี แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้... หรือว่าพวกมันกลัวน้ำ
นักเรียนน้อย
19th June 2012, 09:12 AM
ช่วงที่อากาศหนาวจัด หมาในก็หายตัวไป เมื่อผมไปขอดูข้อมูลจากคุณลอน จึงรู้ว่าตัวที่ถูกติดปลอกคอหากินวนเวียนอยู่ในพื้นที่ราว ๒๐ ตารางกิโลเมตร และยังจับสัญญาณได้ซ้ำๆ ในตำแหน่งที่ใกล้เคียงกัน ซึ่งต่างจากปรกติที่จะหากินไปเรื่อยๆ และใช้พื้นที่หากินมากกว่า โดยในฤดูฝนจะใช้พื้นที่หากินราว ๔๕ ตารางกิโลเมตร และ ๓๓ ตารางกิโลเมตร ในฤดูแล้ง ผมตั้งสมมุติฐานว่า น่าจะเป็นช่วงที่แม่หมาในให้กำเนิดลูก ฝูงหมาในต้องช่วยกันหาอาหารไปให้แม่และลูกที่อยู่ในโพรงรัง
หมาในเป็นสัตว์สังคมมีการแบ่งลำดับชั้นในฝูง จ่าฝูงและคู่จะอยู่ในลำดับสูงสุด ปรกติในฝูงจะมีตัวเมียคู่ของจ่าฝูงตัวเดียวเท่านั้นที่ให้กำเนิดลูก แม่หมาจะเลือกสถานที่ในการออกลูกเอง อาจหาถ้ำหรือขุดโพรงลึกลงไปในดินที่ไม่ไกลจากแหล่งน้ำนัก หลังตั้งท้องได้ราว ๙ สัปดาห์ ก็จะตกลูกคราวละ ๒-๙ ตัว
ลูกหมาในอายุได้ ๓ สัปดาห์จะเริ่มกินเนื้อที่ผู้ใหญ่ในฝูงนำมาสำรอกให้ อายุ ๖-๗ สัปดาห์ จึงหย่านม อายุ ๓ เดือนเริ่มเข้าไปกินซากร่วมกับฝูง ในอินเดียเคยพบหมาในไล่ต้อนเหยื่อให้ไปตายใกล้ๆ รังเพื่อให้ลูกเข้ามากินเหยื่อร่วมกับฝูง อายุ ๘ เดือนเริ่มมีส่วนร่วมในการล่าเหยื่อ และโตเป็นหนุ่ม-สาวเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ ๑๕ เดือน หมาในพออายุมากขึ้นจะมีขนสีขาวเด่นชัดขึ้นในบริเวณด้านในใบหู ใต้ปากตลอดไปถึงคอ อก ท้อง และขาพับ
นักเรียนน้อย
19th June 2012, 09:14 AM
เมื่ออากาศเริ่มอบอุ่นขึ้นร่องรอยของหมาในก็กลับมาปรากฏให้เห็นมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่รอบๆ ทุ่งกะมังที่มีสัตว์กินพืชจำนวนมากและมีทุ่งหญ้าติดชายน้ำที่หมาในชอบออกล่าเหยื่อ เสียงร้องตื่นตระหนกของ กวางป่าและเนื้อทราย เริ่มมีให้ได้ยินถี่ขึ้นเรื่อยๆ ตลอดฤดูร้อนผมมักพบเศษซากกองกระดูกของกวางป่าและเนื้อทรายอยู่ใกล้ๆ กับแหล่งน้ำ
ต้นฤดูฝนข่าวการไล่ล่าของฝูงหมาในมีมาเรื่อยๆ ทั้งที่ศาลาพรมและทุ่งกะมัง ในช่วงนี้ผมพบลูกหมาในอายุราว ๓-๕ เดือนออกเดินทางไปมากับฝูงและร่วมเข้ากินซาก เมื่อนับย้อนกลับไปเวลาที่ลูกหมาเกิดจะอยู่ในช่วงฤดูหนาวที่ฝูงหมาในหายตัวไป
พอเข้าสู่ฤดูมรสุมความอุดมสมบูรณ์ของพืชพันธุ์มีมากขึ้น สัตว์กินพืชต่างแยกย้ายกระจายตัวออกไปหากินตามแหล่งอาหารที่มีอยู่ทั่วไป ฝูงหมาในต้องออกหากินกว้างและไกลขึ้น โอกาสที่จะพบตัวหมาในในฤดูมรสุมยากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่านัก
ความตั้งใจที่จะใช้เวลาหนึ่งปีทำงานถ่ายภาพหมาในต้องเปลี่ยนไป เมื่อตลอดทั้งปีผมแทบไม่ได้ถ่ายภาพหมาในเลย เวลาหมดไปกับการตามรอย เรียนรู้วิถีชีวิตและพฤติกรรมของพวกมัน
คุณหญิงกระแตแต้แว้ด
19th June 2012, 03:25 PM
ป้ามาเฝ้าหน้าจอ รอหมาในตั้งแต่เช้าถึงเย็น...
หมาในตัวเป็น ๆ กรุณาออกมาอีก..ให้ไว ให้ไว เด้อ...น้าเบ :)
Hong
19th June 2012, 04:13 PM
อ่านแล้วได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะเลยนะครับพี่เบ ขอบคุณนะครับสำหรับข้อมูลดี ๆ ครับ
TOR-HONG
19th June 2012, 06:52 PM
ขอบคุณครับพี่เบที่ช่วยเขียนและเล่าเรื่องราวดีๆแบบนี้ สุดยอดเลยครับ
ยายแม้น
19th June 2012, 09:09 PM
....เรียนท่าน...web master......
...กดทีเดียว..10 like.......กดตรงไหนจ๊ะ......
....สุดยอด.......พูดได้เพียงประโยคนี้ประโยคเดียว.......
ตรูดหมึก
20th June 2012, 04:51 AM
เนื้อหาสาระแบบมีคุณค่าอย่างเง้ หาอ่านได้ยาก !!....
ตรูดหมึกว่า ไม่ปักหมุด ม่ะได้แว้ววว......:D
นักเรียนน้อย
20th June 2012, 07:27 AM
ขอบพระคุณทุกๆ ความคิดเห็นครับ มีอะไรเพิ่มเติมก็ได้โปรดแนะนำด้วยนะครับ
เพื่อจะได้นำมาพัฒนาการทำงานครับผม
หนึ่ง
20th June 2012, 07:44 AM
อ้าว! จบแล้วเหรอ ต่ออีกหน่อยสิครับกำลังเพลินเลย รอมาสองวันแล้วนะก้าบ
นักเรียนน้อย
20th June 2012, 07:49 PM
อ้าว! จบแล้วเหรอ ต่ออีกหน่อยสิครับกำลังเพลินเลย รอมาสองวันแล้วนะก้าบ
พี่หนึ่งครับ จะพยายามอาทิตย์ละตอนครับ การทำงานของหมาใน มี 5 ตอน รอตอนต่อไปอาทิตย์หน้าครับผม
ขอบคุณมากครับ
:o:D
ยายแม้น
20th June 2012, 10:11 PM
...ยาย...จองแถวหน้า..ริงไซค์...เรียบร้อยแล้วจร้า.....
...ขอบคุณนะคร๊า...พี่เบย์....
TOR-HONG
21st June 2012, 06:54 AM
ส่วนผมจะนั่งใกล้ๆยาย จะได้แอบยิบชาเย็นกินด้วย ^___^
Surin
22nd June 2012, 11:45 AM
พี่เบครับ หมาในภาพแรกอ่อนโยนมากเลยครับ:)
Hadida
22nd June 2012, 12:00 PM
น่ายินดีที่ได้อ่านบทความดีดีได้สาระความรู้ในสิ่งที่ผมเองก็ไม่เคยรู้มาก่อน
ดีใจที่เวปเล็กๆเวปนึงมีพื้นที่ที่นอกจากจะได้สนุกเพลิดเพลินแล้วยังได้สาระด้วย
ติดตามอ่านอยู่นะครับ แล้วจะรออ่านตอนต่อไป :D
นักเรียนน้อย
24th June 2012, 10:47 AM
ผมรอให้ถึงฤดูหนาวจึงออกติดตามร่องรอยหมาในอีกครั้ง โดยใช้ข้อมูล
ที่บันทึกไว้ในปีที่ผ่านมามาประกอบการตามหาตัวพวกมัน
หมาในออกหากินทั้งแบบเป็นฝูง แยกเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละ๒-๓ ตัว รวมถึงการออกหากินตัวเดียว
เวลาที่แยกกันเดินทางพวกมันสื่อสารกันด้วยการเยี่ยวหรือถ่ายเอาไว้ แต่ละตัวต่างมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์
เฉพาะตัว พอตัวอื่นในฝูงผ่านมาจะรู้ว่ากลิ่นนี้เป็นของตัวใด ผมมักพบขี้หมาในกองกระจายอยู่ในบริเวณ
เดียวกัน และพบในที่เดิมเมื่อพวกมันกลับมาใช้เส้นทางเดิมสัญจร สัญลักษณ์ที่หมาในทิ้งไว้เป็นร่องรอย
อย่างดีสำหรับการตามหาตัว ทำให้รู้ว่าพวกมันอยู่แถวไหนและคาดเดาได้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปที่ใด
เมื่อคาดว่าหมาในมุ่งหน้าไปทางไหน ผมจะไปรออยู่ตามจุดที่หมาในเคยปรากฏตัว โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้ๆ
แหล่งน้ำ ซึ่งได้ผลดีทีเดียว ที่ศาลาพรมผมพบหมาในออกทำงาน ๓ ครั้งในช่วงวันใกล้เคียงกับที่พบในปีแรก
ส่วนที่ทุ่งกะมังฝูงหมาในเข้ามาทำงานในจุดเดิมในช่วงเดือนเดียวกันกับปีที่ผ่านมา
นักเรียนน้อย
24th June 2012, 10:51 AM
ผมเริ่มจดจำหมาในได้ ๔ ฝูง ฝูงใหญ่ที่สุดมีสมาชิก ๑๒ ตัว อีก ๒ ฝูงมี ๘ ตัว ส่วนอีกฝูง
ไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัดแต่ไม่น่าเกิน ๑๐ ตัว การที่หมาในบางฝูงมีสมาชิกที่ถูกติดปลอกคอทำให้
แยกแยะฝูงหมาในได้ง่ายขึ้น ในจำนวน ๔ ฝูง มีอยู่ ๒ ฝูง ที่เข้ามาหากินในบริเวณศาลาพรม
และที่บริเวณโป่งเทียมติดกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติไม่ไกลจากทุ่งกะมังก็พบหมาใน ๒ ฝูง
เข้ามาไล่ล่ากวางป่า
ในบรรดาฝูงหมาในที่รู้จัก มีอยู่ฝูงหนึ่งที่ผมพบบ่อยที่สุดและคุ้นเคยมากที่สุด พวกมันมีสมาชิก ๘ ตัว
ผมจำตัวจ่าฝูงได้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเพราะใบหูข้างหนึ่งแหว่งไป ตรงกับลักษณะหมาในตัวแรกที่
คุณลอนจับติดปลอกคอ แต่ไม่นานปลอกคอก็หลุด เดิมทีจ่าฝูงตัวนี้ก็มีพวงหางสวยงามเช่นเดียวกับ
ตัวอื่นๆ แต่มันต้องสูญเสียพวงหางไประหว่างทำงานเพื่อล้มกวางหนุ่มตัวหนึ่ง หลังจากนั้นมาผมจึง
เรียกมันว่า เจ้าหางกุด
นักเรียนน้อย
24th June 2012, 10:55 AM
เจ้าหางกุด เป็นหมาในที่โตเต็มที่รูปร่างสมบูรณ์สวยงามที่สุดตัวหนึ่งที่ผมเคยพบ
ร่างกายที่เต็มไปด้วยริ้วรอยบาดแผลจากการผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชนเป็นตัวอย่างที่ดี
ที่บอกให้รู้ว่า ชีวิตนักล่าไม่ได้อยู่อย่างง่ายดายนัก ครั้งแรกที่เจอกัน พอเจ้าหางกุดเข้ามา
ใกล้บังไพรก็ตกใจ ส่งเสียงครางในลำคอและวิ่งพรวดพราดหนีไป แต่หลังจากนั้นพอฝูงของ
มันล่าเหยื่อได้ในครั้งต่อมา เราจึงเจอกันบ่อยขึ้น ความแปลกหน้าค่อยๆ หายไป
พอเริ่มรู้จักกัน เจ้าหางกุดก็เดินผ่านด้านหลังบังไพรไปเฉยๆ เลิกแสดงอาการตื่นตกใจ บาง
ครั้งก่อนจะเข้าไปกินซาก มันจะมายืนสำรวจความปลอดภัยบริเวณรอบๆ อยู่ข้างบังไพร
พอกินเสร็จก็มานอนแช่น้ำอยู่หน้าบังไพร... ความจริงผมไม่รู้หรอกว่า นี่คืออาการที่แสดงออกถึง
ความคุ้นเคยหรือไม่ไว้วางใจกันแน่ แต่ผมเชื่อว่าเป็นอย่างแรกมากกว่า
นักเรียนน้อย
24th June 2012, 10:58 AM
ตลอดช่วงเวลาที่เรียนรู้ทำความรู้จักชีวิตของหมาใน เจ้าหางกุดและเพื่อนๆ
ทำให้ผมรู้ถึงความจริงหลายอย่างของพวกมัน เริ่มจากการใช้เหยื่อกันอย่างคุ้มค่า
ไม่ได้กินทิ้งกินขว้างอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน
ปลายฤดูร้อน ผมพบฝูงของเจ้าหางกุดล้มกวางป่าตัวใหญ่ได้ ตอนที่มาพบซาก
เครื่องในถูกกินไปจนหมด เนื้อที่อกและส่วนท้องถูกกินไปบางส่วน
หมาในกินเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว ตัวที่โตเต็มที่กินเนื้อ ๑ กิโลกรัมได้ภายใน ๔ นาที
และจุอาหารในกระเพาะได้คราวละ ๓-๔ กิโลกรัม
เมื่อกินจนพุงกางหมาในก็นอนพักอยู่แถวนั้น แต่จุดที่ล่าเหยื่อได้อยู่ติดกับเส้นทาง
ศึกษาธรรมชาติที่มีนักนิยมไพรเดินผ่านไปมา พวกมันจึงต้องหลบซ่อนตัว
ช่วงที่หมาในไม่อยู่เหี้ยตัวใหญ่ก็เข้ามากินซาก เป็นเรื่องปรกติที่จะมีสัตว์ป่าหลายชนิดมา
ร่วมแบ่งปันอาหาร มีหมูป่าโทนและนกขุนแผนมากินซากในตอนกลางวัน
ตกกลางคืนก็มีร่องรอยของ ชะมด เม่น และหมีควายเข้ามาแทะกินซาก
นักเรียนน้อย
24th June 2012, 11:00 AM
ระหว่างที่ผมเฝ้าซากก็มีนักนิยมธรรมชาติคณะหนึ่งเดินผ่านมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของเขตฯ
ที่มาช่วยเป็นผู้สื่อความหมายในธรรมชาติ เมื่อเห็นซากก็เดาว่าเป็นหมาในล่าเอาไว้
พวกเขาอยากเห็นจึงพากันหยุดดู โดยไม่รู้ว่ามีบังไพรของผมซ่อนอยู่ในพุ่มไม้ใกล้ๆ
สักพักเดียวทั้งหมดก็เดินจากไป มีเสียงดังมาให้ได้ยินว่า หมาในคงทิ้งซากไปแล้ว
พอเงียบสงบหมาในวัยรุ่นก็แวะเวียนมากินซาก ส่วนรุ่นใหญ่และเจ้าหางกุดจะมากินในช่วงเช้าตรู่
หรือไม่ก็ตอนใกล้ค่ำ พวกที่มีประสบการณ์จะระแวดระวัง มักมาสำรวจความปลอดภัยในบริเวณรอบๆ
ก่อนเข้ากินซาก เป็นธรรมดาที่รุ่นเก๋าจะไม่ยอมพลาดอะไรง่ายๆ ผิดกับรุ่นใหม่ที่อ่อนด้อยน้อย
ประสบการณ์ ทำอะไรมักจะขาดความรอบคอบ
เมื่อเจ้าหางกุดปรากฏตัว ลูกฝูงจะเปิดทางให้มันเข้าไปกินจนกว่าจะอิ่ม มีเพียงคู่ตัวเมียของมัน
เท่านั้นที่ได้รับอภิสิทธิ์กินเหยื่อด้วยกัน แถมบางครั้งเธอยังกระชากลากเหยื่อหนีไปกินตัวเดียว
ซึ่งมันต้องยอม ดูจะเป็นธรรมเนียมที่จ่าฝูงและคู่จะได้กินก่อน เด็กๆ ที่กำลังโตเป็นลำดับถัดมา
พวกวัยรุ่นมักได้กินหลังสุด ฝูงเจ้าหางกุดใช้เวลา ๓ วัน วนเวียนกลับมากินซากจนหมด และใน
สัปดาห์นั้นก็ยังพบสมาชิกบางตัวกลับมานอนแทะกระดูกเล่นในช่วงแดดร่มลมตก
Hadida
24th June 2012, 11:03 AM
ได้ความรู้เต็มๆ ขอบคุณมากๆ ครับ
นักเรียนน้อย
24th June 2012, 11:09 AM
ได้ความรู้เต็มๆ ขอบคุณมากๆ ครับ
ด้วยความยินดียิ่งครับพี่ตู่ ผมก็เข้ามาเก็บความรู้จากพี่ตู่บ่อยๆ เช่นกันครับ :o
TOR-HONG
24th June 2012, 08:20 PM
ต้องบอกเลยครับพี่เบว่าสุดยอดมากกกกก ได้เห็นทั้งภาพและได้อ่านเนื้อหาความรู้ใหม่ๆอีกขอบคุณจากใจจริงๆครับ
ตรูดหมึก
25th June 2012, 11:28 AM
เนื้อหาดี ดีแบบเน้ ยังไม่ "ปักหมุด" กันอีกหรา ???:072-Applaus90-90::072-Applaus90-90::072-Applaus90-90:
หนึ่ง
26th June 2012, 08:17 AM
ยอดเยี่ยมเต็มเปี่ยมเลยครับ :EM_Fungus203::088:
หมอนข้าง
26th June 2012, 11:41 AM
ยอดเยี่ยมจริงๆครับคุณเบ เป็นเรื่องราวประกอบภาพที่น่าติดตามมาก
น้าเบต้องใช้เวลาภาคสนามตั้ง 3 ปีเฝ้าติดตามหมาใน เพื่อมาถ่ายทอดให้เพื่อนๆสมาชิกได้ทราบ
ขอบคุณมากๆครับ (รวมทั้งพี่วรรณชนกด้วยนะครับ) ที่เอาชีวิตในธรรมชาติมาแบ่งปัน.. :Onion11:
QuanTum
27th June 2012, 01:03 AM
กระทู้คุณภาพและเต็มไปด้วยคุณค่าแบบนี้ ขออนุญาติเอาขึ้นเป็นกระทู้ปักหมุดเลยนะครับ :014-Bow:
ยายแม้น
27th June 2012, 07:19 AM
:014-Bow:.....เรียนท่าน Admin ...ทราบ....
.....ร้อยแก้วประกอบภาพที่ไม่ธรรมดา....แบบนี้...
.....ยายว่า..
....ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง.....ที่จะลงในกระทู้ปักหมุด....:288:
....เรื่องสุดยอดแบบเนี๊ยะ..ยายแนะนำให้ลงในกระทู้ "...เสาเข็ม.." ดูจะมั่นคงกว่า...ว่ามั๊ย...!!!(......กลัว..หมุดหลุด..อ่ะน่ะ......อิอิ..):072-Applaus90-90:
คุณหญิงกระแตแต้แว้ด
27th June 2012, 10:40 PM
อยากให้มากกว่าคำว่า "ขอบคุณ" แต่นึกไม่ออกว่าจะให้อะไรดี ถึงจะสมกับค่าของกระทู้นี้
งั้นสรุปว่า...รักน้าเบสุด ๆ เลย ละกัน นะ นะ จุ๊บ จุ๊บ
....ไปแระ ยายแม้นเหล่มาแล้ว....
ยายแม้น
28th June 2012, 08:14 AM
....จะทำอะไร..ป้าฯอย่าให้มันดูประเจิด..ประเจ้อ...เกินเลยไปนัก..
.....บอร์ดนี้มีเด็กเล็กดูอยู่ด้วย(..ไอ้จุก...งัย..)....ขอเถอะ.....นะจ๊ะ...
.....จะมา..จุ๊บ../..มา..จิ๊บ..กันในกระทู้แบบนี้...มันดูโป้งโล้ง..โล่งแจ้งมากไปหน่อย...
.....ลูกเขามีพ่อมีแม่นะจ๊ะ....พี่เค๊าเขาจะเสียนะ..!!.
.....ระงับจิต...ระงับใจไว้บ้าง..เราเป็นหญิง...
.....ป้าฯไปหาเอาข้างหน้าเถอะ...ยายขอ...หวงอ่ะ...ขอบอก..อิอิ..งุงิงุงิ....
:014-Bow:
ปล......พี่เบ...นี่สเป็คยายเลย..!!.....ยายขอไว้ซักคน...
..นาปีนี้นี้หากได้ข้าวซัก 40 เกวียน...จะให้แม่ไปขอแระ....555
TOR-HONG
28th June 2012, 12:14 PM
:072-Applaus90-90::072-Applaus90-90::072-Applaus90-90:
คุณหญิงกระแตแต้แว้ด
29th June 2012, 03:15 PM
:014-Bow:
ปล......พี่เบ...นี่สเป็คยายเลย..!!.....ยายขอไว้ซักคน...
..นาปีนี้นี้หากได้ข้าวซัก 40 เกวียน...จะให้แม่ไปขอแระ....555
ข้ามศพป้าแว้ดไปก่อนละกัน ยายแม้น...คนนี้ชั้นจองไว้ตั้งแต่ปีก่อนโน้นแล้ว ยายไปหาเอาใหม่ละกัน อย่าว่างั้นงี้เลยนะ คนหล่อ ๆ เค้าต้องคู่ควรกะคนสวย ๆ อ่ะนะ คิก คิก
:377: :377: :377::377:
นักเรียนน้อย
3rd July 2012, 06:27 PM
๔...
เข้าสู่ช่วงเดือนที่ควรจะเป็นฤดูหนาว แต่ยังมีฝนตกลงมาเรื่อยๆ และอากาศก็ไม่หนาวสักที
ที่ศาลาพรมแม้กวางป่ายังมารวมฝูงตามปรกติ แต่ไม่พบหมาในเข้ามาล่าเลย พบเห็นแค่ฝูงหมาใน
เดินทางผ่านไปมา จนไปพบซากกวางป่าที่ริมหนองน้ำห่างจากศาลาพรมราว ๓ กิโลเมตร
ถึงรู้ว่าหมาในเปลี่ยนไปซุ่มล่าเหยื่ออยู่ตามแหล่งน้ำเล็กๆ ที่ยังมีน้ำ ซึ่งในปีก่อนแหล่งน้ำนั้นแห้งขอด
ส่วนที่ทุ่งกะมังหมาในก็ไม่ได้ล่าในบริเวณเดิม ข่าวการปรากฏตัวตามที่ต่างๆ เป็นสถานที่ใหม่ๆ
ที่ผมไม่เคยบันทึกไว้ ผมจึงต้องกลับไปแกะรอยหมาในใหม่ จนเข้าสู่ฤดูฝนถึงพบตัว
เมื่อฝนแรกร่วงหล่นมา ผืนป่าที่แห้งแล้งก็กลับมาสู่ความเขียวขจี หญ้าที่เคยเหี่ยวแห้งเริ่ม
แทงแตกยอดใหม่ กวางป่าจะพากันมาหากินอยู่ตามริมน้ำที่มีหญ้าอ่อนขึ้นอยู่มากมาย
เย็นวันหนึ่งหมาในเข้าโจมตีฝูงกวางป่าที่หากินอยู่ติดกับริมน้ำ หมาในล้มเหลวเมื่อเจอการ
ป้องกันอย่างเข้มแข็งจากกวางตัวผู้หลายตัวที่มีเขาขนาดใหญ่และแข็งแรง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่
หมาในจะล่าเหยื่อขนาดใหญ่ได้ พวกมันต้องใช้เวลาหลายวันตามหาเป้าหมายที่พอจะล่าได้
หรือบางครั้งก็วนเวียนอยู่นานเป็นสัปดาห์จึงมีโอกาสล้มกวางป่าสักหนึ่งตัว หลายครั้งที่ต้องล่า
ถอยเมื่อเผชิญหน้ากับกวางป่าที่แข็งแกร่ง การบาดเจ็บและบาดแผลที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงาน
ย่อมไม่มีใครเห็น
นักเรียนน้อย
3rd July 2012, 06:31 PM
หากหมาในยังล่าไม่ได้และมีเหยื่อหากินอยู่ในบริเวณนั้น พวกมันจะหาโอกาสลงมือจน
กว่าจะสำเร็จ หรือไม่ก็จนกว่าจะมีเป้าหมายใหม่ ผมพอจะรู้จักนิสัยของหมาในอยู่บ้างจึง
มาเฝ้ารออยู่ที่ริมน้ำ หวังจะได้ถ่ายภาพการทำงานของหมาในอย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ต้นจนจบ
เพราะถึงจะพบเห็นและถ่ายภาพมาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ดังที่หวังเอาไว้สักที
ช่วงฤดูฝนนอกจากจะต้องผจญกับกองทัพทาก ผมยังต้องคอยรบกับแมลงนานาชนิด
การทำงานกับสัตว์ป่าที่มีฆานประสาทดีเยี่ยมจึงไม่สามารถทาหรือใช้เครื่องป้องกันใดๆ
ที่มีกลิ่นผิดไปจากธรรมชาติ การรอในบังไพรแคบๆ แล้วมีแมลงมาไต่ตอมมันย่อมไม่ใช่
สิ่งที่น่ารื่นรมย์นัก ระหว่างที่คอยไล่แมลงที่บินอยู่ข้างๆ หูก็มีเสียงเหมือนตัวอะไรกระโจนลงน้ำ
มองลอดช่องบังไพรออกไปฝั่งตรงข้ามไกลกว่า ๒๐๐ เมตรก็เห็นกวางป่าตัวเมีย ๓ ตัวยืนอยู่ในน้ำ
ด้านหลังที่วิ่งอยู่บนฝั่งตามมาติดๆ คือฝูงหมาใน เสียงเห่าสั้นๆ แบ็กๆ แบ็กๆ ดังระงม
หมาในตัวหนึ่งกระโจนลงน้ำ ว่ายน้ำตรงเข้าหากวางป่า ทำให้กวางป่าหันกลับมาใช้สองขาหน้าถีบสู้
จนน้ำกระจาย เมื่อได้จังหวะกวางป่าจึงหนีจะไปขึ้นฝั่งอีกด้านหนึ่งที่เป็นดงทึบ แต่ก่อนจะถึงฝั่งกวางป่า
ก็ต้องชะงัก เมื่อมีหมาในหลายตัวโผล่ออกมาจากราวป่ากระโจนลงน้ำเข้าสกัดกั้นไม่ยอมให้ขึ้นจากน้ำ
นักเรียนน้อย
3rd July 2012, 06:35 PM
กวางป่าหันกลับลอยคอตัดเวิ้งน้ำหนีลงน้ำลึก ส่วนหมาในก็ว่ายตามอย่างไม่ลดละ
จนไล่ต้อนกวางป่าเข้ามุมอับ หมาในตัวหนึ่งจึงกระโจนเข้ากัดหมายจะขย้ำคอเหยื่อแต่พลาด
กวางป่าเอี้ยวตัวหลบหันกลับมาใช้สองตีนตบลงบนหัวหมาในอย่างจังจนจมหายลงไปในน้ำ
หลายชั่วอึดใจกว่าหมาในตัวนั้นจะโผล่ขึ้นมาและลอยคอออกห่าง มันคงรู้ฤทธิ์เดชของกวางป่า
เข้าบ้างแล้ว
หมาในตัวอื่นๆ เมื่อเห็นเพื่อนถูกตอบโต้จึงได้แต่ลอยคออยู่รอบๆ ไม่กล้าผลีผลามเข้าโจมตี
กวางป่าที่หันหน้าเข้าสู้ใช้สองขาหน้าเป็นอาวุธป้องกันตัวอย่างได้ผล แต่มีตัวหนึ่งที่ดูตื่นกลัว
ได้แต่หลบอยู่ข้างหลังเพื่อน
กวางป่าตีฝ่าวงล้อมหนีออกมาได้อีกครั้ง ตัวที่แข็งแกร่งยังรักษาระยะห่างจากหมาในได้เป็นอย่างดี
แต่ตัวสุดท้ายที่ตื่นกลัวที่สุดดูอ่อนแรง จนหมาในว่ายน้ำตามมาทัน หนึ่งในฝูงกระโจนขึ้นคร่อมหลัง
ทำให้กวางป่าเสียหลักและช้าลง อีกตัวหนึ่งจึงได้จังหวะตรงเข้ากัดที่ส่วนหน้าพยายามดึงให้จมน้ำ
แต่ไม่สำเร็จกวางป่าดิ้นรนสลัดจนหลุด ทว่า... สายเกินไป
นักเรียนน้อย
3rd July 2012, 06:38 PM
หมาใน ๖ ตัวได้ลอยคอรุมล้อมกวางป่าที่อ่อนล้าตัวนั้นเอาไว้ กวางป่า ๒ ตัวเมื่อเห็นเพื่อนเสียท่า
จึงหันกลับเข้ามาช่วย แต่ก็ถูกหมาใน ๒ ตัวว่ายน้ำออกไปสกัดไม่ให้เข้ามาขัดขวางพวกของมันที่
กำลังรุมเล่นงานเหยื่อ
ฝูงหมาในกัดที่หน้าและจมูก ดึงเหยื่อให้จมลงไปในน้ำครั้งแล้วครั้งเล่า จนเหยื่อสำลักน้ำและ
เริ่มหมดแรง ส่วนกวางป่าคู่นั้นก็ยังพยายามฝ่าด่านเข้ามาช่วยเพื่อน ทำให้หมาในอีก ๒ ตัว
ต้องผละจากเหยื่อช่วยกันเข้าไปไล่ต้อนกวางป่าจนต้องหนีไปยืนใช้ตีนตีน้ำขู่อยู่ไม่ห่างนัก
สุดท้ายจึงเหลือหมาใน ๒ ตัวที่รุมเล่นงานเหยื่อเคราะห์ร้าย หนึ่งในนั้นเป็นตัวที่ถูก
ติดปลอกคอวัยหนุ่มฉกรรจ์อายุราว ๒ ปี ส่วนตัวที่เป็นผู้นำเล่นงานเหยื่อคือจ่าฝูง
จ่าฝูงลากเหยื่อที่ไร้แรงต้านทานเข้าไปในกลุ่มต้นกกที่ตื้นพอให้มันยืนได้ จากนั้นจึงกัดเข้าที่
ลูกตาจนหลุดติดปากออกมา แต่เหยื่อยังดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยแรงกำลังเฮือกสุดท้าย
ผู้ล่าต้องออกแรงขย้ำเข้าที่คออยู่พักใหญ่จนเหยื่อแน่นิ่งไป
หมาในกัดก้นลากไส้ออกมากินทั้งๆ ที่เหยื่อยังผงกหัวไปมา กินกันไม่กี่คำก็พากันว่ายน้ำ
กลับขึ้นฝั่ง เหยื่อตัวใหญ่และระยะทางไกลเกินกว่าที่มันจะลากกลับขึ้นมากินบนฝั่งได้
...ในที่สุดผมก็ได้ถ่ายภาพฉากการทำงานของหมาในตั้งแต่ต้นจนจบ
นักเรียนน้อย
3rd July 2012, 06:46 PM
หมาในชอบกินเหยื่อโดยกัดเปิดก้นหรือท้องเข้าไปลากไส้และเครื่องในออกมากินก่อน
จากนั้นจะกัดฉีกหนังออกแล้วค่อยกินเนื้อที่อยู่ข้างใน มันจะเลือกกินเนื้อในบริเวณที่กิน
ได้ง่ายก่อนขาทั้งสี่ข้างจะเหลือเป็นส่วนท้ายๆ
หมาในมีเทคนิคการทำงานอย่างหนึ่งคือกัดตากวางป่าให้มองไม่เห็น จะได้หลบหนีลำบาก
เมื่อการทำงานสิ้นสุดลูกตาที่หลุดจึงถูกกินเป็นอันดับแรก จ่าฝูงเท่านั้นที่ได้สิทธิ์นี้เพราะคือ
ตัวแรกที่ได้กิน และเท่าที่พบ จ่าฝูงเป็นตัวนำในการกัดตาเหยื่อ
ด้วยเหตุนี้ซากกวางป่าที่ตกเป็นเหยื่อของหมาในจึงไม่เหลือลูกตา เรื่องนี้ทำให้นึกถึงเรื่องเล่า
ตอนเด็กๆ ที่คนเฒ่าคนแก่ชอบเอามาขู่ไม่ให้เด็กออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้านยามค่ำคืน
โดยบอกว่าพวกหมาในชอบเยี่ยวรดตามใบไม้หรือโคนต้นไม้ในตอนหัวค่ำ กว่าพิษจะหมดฤทธิ์
ก็ตอนรุ่งสาง เยี่ยวของหมาในมีพิษ ถ้าไปโดนเข้าแล้วเผลอเอามือมาขยี้ตา-ตาจะบอด
แล้วเล่าถึงเรื่องกวางป่าที่ตาบอดเพราะไปโดนเยี่ยวของหมาในเข้า เลยถูกจับกินได้ง่ายๆ
ฉะนั้นจึงห้ามไม่ให้เด็กๆ ออกไปเล่นนอกบ้านในตอนกลางคืน... ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องเล่าหลอกเด็ก
เฉยๆ หรือว่าคนสมัยก่อนเห็นซากสัตว์ที่ถูกหมาในกินแล้วไม่เหลือลูกตาไว้ เลยเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ
นักเรียนน้อย
3rd July 2012, 06:49 PM
จากที่เคยสงสัยว่าหมาในกลัวน้ำ และคิดว่ากวางป่าหนีลงไปในน้ำเพื่อความได้เปรียบที่ตัวสูงกว่า
แต่พอมาเห็นหมาในไล่กวางป่าลงน้ำ และไม่ยอมให้หนีขึ้นจากน้ำทำให้ต้องเปลี่ยนความคิด
หมาในแสดงให้เห็นว่าหากเอาจริง บึงน้ำก็ไม่เป็นอุปสรรค หมาในว่ายน้ำเก่ง มุดน้ำได้
และมีความทรหดอดทนสูง
ปรกติหมาในฝูงนี้มีสมาชิก ๘ ตัว แต่คราวนี้มีไม่น้อยกว่า ๑๒ ตัวที่ทำงานร่วมกัน ยังไม่นับ
ที่อยู่ในชายป่าอีกจำนวนหนึ่ง ผมแน่ใจว่าเป็นการรวมตัวของหมาใน ๒ ฝูงเพื่อล่าเหยื่อ
ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๔๐ พี่กิตติพบหมาในรวมฝูงกันมากถึง ๔๒ ตัว เข้ามาล่ากวางป่าหลายตัว
ในวันเดียวกันบริเวณทุ่งกะมัง หลังจากนั้นมาก็ไม่เคยมีใครพบเห็นหมาในรวมฝูงใหญ่ขนาดนั้น
ในป่าภูเขียวอีกเลย
ธรรมชาติของสัตว์ป่าจะหวงถิ่นและมีอาณาเขตเป็นของตนเอง หากเจ้าถิ่นรู้ว่ามีการรุกล้ำข้ามแดน
จากสัตว์ป่าชนิดเดียวกันจะเข้าไปขับไล่ทันที ถ้าผู้บุกรุกไม่ยอมถอย ก็ต้องต่อสู้กัน บางครั้งอาจหนัก
ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย การพบหมาใน ๒ ฝูงหากินในพื้นที่เดียวกัน และบางครั้งยังรวมตัวกันล่าเหยื่อ
เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักในสัตว์นักล่าอื่นๆ เหตุผลที่เป็นไปได้คือบริเวณนั้นมีอาหารอุดมสมบูรณ์
เพียงพอต่อการแบ่งปัน หรือว่าเป็นเครือญาติเดียวกันที่แยกออกไปตั้งฝูงใหม่
...และก็เหมือนทุกปีที่ผ่านมาพอเข้าสู่ฤดูมรสุมฝูงหมาในก็หายตัวไป
ยายแม้น
3rd July 2012, 07:48 PM
:014-Bow:.....ขอบคุณ.......ขอใด้รับ....การคารวะจากยาย....งามๆ 3 ครั้ง....
.....สุดยอดจริงๆ......
.....สุดยอดแห่งความตั้งใจ....ความอดทน...และความพยายามอันสูงสุด...
.....ทั้งความรู้ที่ยังไม่มีนักวิจัยใดติดตามให้เป็นรูปธรรม.....ทั้งภาพประกอบที่งดงาม..(..แม้จะโหดร้าย..)....
.....ขอขอบคุณ..ขอบคุณ...ด้วยใจ....:014-Bow:
TOR-HONG
3rd July 2012, 08:27 PM
:014-Bow::014-Bow::014-Bow: คำเดียวสั้นๆเลยครับพี่เบ....สุดยอด :088::088::088:
นายจ่อย
5th July 2012, 11:20 AM
นักเรียนน้อย (http://www.birdholiday.com/forums/member.php?44-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A2)
นายพันร่ายทุ่ง
ภาพ “การทำงานของหมาใน” รางวัลชนะเลิศถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากการประกวดภาพถ่ายอนุรักษ์
ธรรมชาติ “สัตว์มีค่า ป่ามีคุณ” ของกรมป่าไม้ ประจำปี ๒๕๔๔ (ถ่ายเมื่อ ปลาย พ.ค. ๒๕๔๔ ที่บึงน้ำข้างๆ เรือนประทับฯ ทุ่งกะมัง เขตฯ ภูเขียว)
(Canon eos3 + 300 f4 is +1.4x fuji provia 100 Push 2 stop;speed (ประมาณ) 1/30 s f 5.6 Av mode)
Bluefin
8th July 2012, 02:22 PM
ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากเชียวครับ
นักเรียนน้อย
12th July 2012, 09:02 PM
ย่างเข้าฤดูหนาวผมได้พบเห็นการทำงานของหมาในที่พิเศษกว่าทุกครั้ง นับเป็นครั้งแรกที่
ผมเห็นหมาในตัวเดียวล่าเหยื่อขนาดใหญ่ได้สำเร็จ เหยื่อคือเนื้อทรายตัวผู้ที่มีขนาดใหญ่
กว่าหมาในกว่าเท่าตัว หมาในใช้วิธีไล่เหยื่อให้หนีลงน้ำและตามลงไปดึงให้จมน้ำแค่ไม่กี่อึดใจ
เนื้อทรายที่ใจเซาะก็ขาดใจตาย
วันแรกมันลากเหยื่อขึ้นมากินบนฝั่งเพียงลำพัง วันต่อมาจึงมีหมาในอีกตัวหนึ่งมาร่วมกินซาก
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นคู่ที่แยกตัวออกจากฝูงมาถาวร หรือว่าหลบจากฝูงมากินกันแค่นั้น มันเป็น
ฉากการทำงานของหมาในครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนจะยุติการติดตามเรียนรู้วิถีชีวิตของพวกมัน
กว่า ๓ ปีที่ตามรอยหมาใน ผมหาคำตอบได้หลายข้อ ซึ่งอาจจะไม่ตรงกับความคิดของคนทั่วไปนัก
เช่น หมาในกลัวคนมากที่สุด
หลายครั้งที่ผมสบตากับหมาในใกล้ๆ โดยปราศจากสิ่งพรางตัว ใกล้ที่สุดคือ ๕ เมตร ครั้งนั้น
ผมเห็นพวกมันหยอกล้อเล่นกันอยู่ข้างทางจึงคลานไปหมอบนอนดูอยู่บนถนน แต่แล้วจู่ๆ
หมาในตัวหนึ่งก็โผล่มาจากพงหญ้าจะข้ามถนนตามไปหาเพื่อนๆ เราหันมาสบตากัน
มันยืนนิ่งจ้องมองผมอยู่นาน จนผมยกกล้องจะถ่ายภาพ มันจึงส่งเสียงครางในลำคอและวิ่ง
ข้ามถนนไปหาฝูง จากนั้นฝูงหมาในก็อันตรธานไป
นักเรียนน้อย
12th July 2012, 09:07 PM
ทุกครั้ง ที่เจอกัน เมื่อรู้ว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นมนุษย์ หมาในจะรีบหลบไปทันที มันเป็น
สัตว์ขี้อาย คนที่เคยเห็นหมาในนานๆ มักเป็นขณะที่หมาในล่าเหยื่อ ซึ่งมันจะจดจ้องเหยื่อ
จนไม่สนใจว่ามีใครอยู่ในบริเวณนั้นหรือไม่ เราจึงมีโอกาสได้เห็นภาพการทำงานที่อาจดู
ทารุณโหดร้าย บ่อยครั้งที่พวกมันถูกคนไล่ตะเพิด เพราะภาพเหยื่อที่ถูกรุมไล่ล่าดูน่าเวทนา
กว่าชีวิตหมาในทั้งฝูง รวมทั้งลูกน้อยที่จะไม่มีอาหารกิน
เคยมีกวางป่าถูกหมาในกัดจนลูกตาหลุดไปทั้งสองข้าง แต่มีคนเข้าไปไล่หมาในจนต้องหนีไป
สุดท้ายกวางตัวนั้นก็ตายเปล่า เพราะซากที่เน่าเหม็นกลายเป็นเพียงอาหารของเหี้ยเท่านั้น
หมาในชอบกินทิ้งกินขว้าง-เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริง ผมพบหมาในล่าเหยื่อได้หลายครั้ง
ทุกครั้งก็กินซากจนหมดเกลี้ยงและใช้ซากอย่างคุ้มค่า ส่วนที่ว่าหมาในล่าเหยื่อเป็นว่าเล่น
ก็เป็นช่วงเวลาที่หมาในมีลูกน้อย ฝูงหมาในต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหาอาหารให้เพียงพอกับ
สมาชิกใหม่ และหมาในก็ไม่ได้ล่าอย่างพร่ำเพรื่อ หลายครั้งที่ผมเห็นหมาในนอนมองดูกวาง
ตัวอื่นอยู่เฉยๆ หลังจากที่มีอาหารแล้ว
นักเรียนน้อย
12th July 2012, 09:10 PM
ในเรื่องอาหารหรือเหยื่อของหมาในนั้น คุณลอนเคยวิเคราะห์ขี้ของหมาในพบว่า
กินเก้งมากที่สุด รองลงมาคือกวางป่า หมูป่าและเนื้อทราย ตามลำดับ และยังกินเม่น
นก กิ้งก่า แมลงและสัตว์เล็กๆ ที่จับได้ นอกจากนี้หมาในยังล้มกระทิงและวัวแดง
พวกที่ยังโตไม่เต็มที่ได้ ทีมงานวิจัยของเขตฯ เคยพบฝูงหมาในใช้เวลากว่า ๓ ชั่วโมง
ในการล้มลูกกระทิงที่มีขนาดพอๆ กับกวางป่าตัวเมียในโป่งลึกกลางป่า ส่วนผมก็เคย
พบหมาในที่พยายามจะเล่นงานลูกช้าง
ในฤดูแล้งโขลงช้างป่ามักมากินน้ำในหนองน้ำประจำที่มีอยู่ไม่กี่แห่ง ผมพบร่องรอยว่ามี
ช้างป่าวนกลับมาหากินอยู่ใกล้ๆ หนองน้ำจึงไปเฝ้าดู รอจนค่ำแต่ช้างป่าไม่ยอมออกมากินน้ำ
รอบดึกจึงกลับไปดูใหม่ เฝ้าอยู่พักใหญ่ก็ได้ยินเสียงเห่าของหมาในและเสียงร้องของช้างป่า
ผสมกับเสียงไม้หักอึกทึกครึกโครมอยู่ในราวป่า เสียงนั้นค่อยๆ ไกลออกไป จนกระทั่งเงียบ
ไปในที่สุด
รุ่งเช้าผมรีบกลับไปดู มีรอยตีนช้างป่าและหมาในย่ำอยู่เต็มไปหมด ในนั้นมีรอยตีนลูกช้างที่เล็ก
มากคาดว่าพึ่งเกิดได้ไม่นานรวมอยู่ด้วย ตอนแรกก็ไม่ปักใจเชื่อว่าหมาในจะกล้าลองดีกับโขลงช้างป่า
จึงไปค้นคว้าจนเจอข้อมูลในหนังสือ “โลกของเสือโคร่ง” ของ ริชาร์ด เพอร์รี่ ที่เล่าถึง
เรื่องของหมาในที่พยายามเล่นงานลูกช้าง แต่ไม่สำเร็จถูกแม่ช้างฆ่าตายไปหลายตัว
นักเรียนน้อย
12th July 2012, 09:15 PM
มีเรื่องหนึ่งที่ยังสงสัย ผมพบหมาใน ๓ ฝูงที่มีลูกออกหากินด้วยกัน แต่ละฝูงมีลูกแค่
๒ ตัว ทั้งๆ ที่แม่หมาในสามารถให้กำเนิดลูกได้มากกว่านั้น ผมสันนิษฐานว่าอาจเป็น
เพราะหมาในมีขนาดฝูงไม่ใหญ่แค่ ๘-๑๐ ตัว ศักยภาพที่จะเลี้ยงลูกให้รอดคงมีอยู่แค่นั้น
คนมักกลัวว่ากวางป่าจะถูกหมาในล่าจนหมด ซึ่งเรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริงเลย
ผมพบว่ากวางป่าที่หน่วยพิทักษ์ป่าศาลาพรมไม่ได้ลดน้อยลงเลยในแต่ละปี
ส่วนเนื้อทรายบริเวณทุ่งกะมังก็เพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี...เป็นหมาในต่างหากที่
กลับพบเห็นตัวยากขึ้นเรื่อยๆ
สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN)
จัดสถานภาพให้หมาในเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ประเมินว่ามีหมาในตัวโตเต็มวัย
ทั่วโลกน้อยกว่า ๒,๕๐๐ ตัว และมีแนวโน้มจะลดลงเรื่อยๆ
นอกจากคนซึ่งถือเป็นปรปักษ์อันดับหนึ่ง ศัตรูในธรรมชาติของหมาในมีไม่มากนัก
ชุดสำรวจประชากรเสือโคร่งของเขตฯ ภูเขียวเคยพบร่องรอยการต่อสู้ของเสือโคร่ง
กับหมาใน ผลจะเป็นอย่างไรไม่มีใครทราบ พบเพียงซากหมาในถูกฆ่าตายหนึ่งตัว
ส่วนชุดลาดตระเวนของเขตฯ ก็เคยพบหมาในถูกฆ่าครั้งหนึ่ง ตอนที่ไปพบนักฆ่า
กระโดดหายไปในป่าหญ้าคา มีรอยเขี้ยวฝังลึกอยู่ที่คอและฟองน้ำลายก็ยังไม่ทันจะแห้ง
เดากันว่าน่าจะเป็นเสือดาว
นักเรียนน้อย
12th July 2012, 09:22 PM
๔ ปีต่อมาหลังจากภาพ “การทำงานของหมาใน” ได้รับรางวัล
เดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ภาพ “การทำงานของหมาใน” ภาพใหม่
ก็ได้รับการนำไปจัดแสดงในงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ หลายคน
เข้ามาถามถึงที่มาที่ไปของภาพด้วยความสนใจ คำถามที่ผมยังคงได้รับบ่อยที่สุดคือ
“ไปถ่ายมาได้อย่างไร” หลังจากอธิบายอยู่หลายรอบ ผมตอบสั้นๆ แบบขำๆ แต่
หมายความตามนี้จริงๆ ว่า “เพราะเรารู้จักกันครับ”
ผมเชื่อว่า คำอธิบายภาพจะช่วยให้คนเข้าใจชีวิตหมาในเพิ่มขึ้น ซึ่งผมเขียนไว้ว่า
“ในที่สุดกวางป่าที่อ่อนแอที่สุดก็ถูกฝูงหมาในว่ายน้ำตามมาทันและรุมเข้าเล่นงาน
หน้าที่อย่างหนึ่งของหมาใน คือควบคุมประชากรของสัตว์กินพืชให้อยู่ในสภาวะที่เหมาะสม
หากมีแต่สัตว์กินพืชขยายเผ่าพันธุ์เพียงอย่างเดียว พืชหลายชนิดที่เป็นอาหารก็จะถูกกัดกิน
จนเติบโตไม่ทัน เมื่อถึงจุดหนึ่งพืชอาหารก็จะไม่เพียงพอต่อความต้องการ ธรรมชาติก็จะเสีย
สมดุลไป นอกจากนี้หมาในยังช่วยกำจัดสัตว์ที่อ่อนแอหรือขี้โรค ช่วยให้สัตว์ที่แข็งแรงสมบูรณ์
ได้มีโอกาสถ่ายทอดพันธุกรรมที่ดีส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน”
TOR-HONG
13th July 2012, 10:46 AM
:088::088::088::088::088::088:สุดๆๆๆๆๆยอดดดดดดดดดดดดด:072-Applaus90-90::072-Applaus90-90::072-Applaus90-90::072-Applaus90-90::072-Applaus90-90:
Powered by vBulletin® Version 4.2.3 Copyright © 2024 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.