นักเรียนน้อย
5th December 2012, 09:59 PM
มกราคม ๒๕๔๕
หลายวันมาแล้วที่ผมใช้เวลาตั้งแต่เช้ามืดจรดค่ำ นั่งเงียบๆ ขยับตัวน้อยๆ อยู่ใน
บังไพร ไกลออกไปราว ๕๐ เมตรเป็นโป่งน้ำซับที่อยู่ในหุบล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ
ใกล้เที่ยง... ผมเริ่มได้ยินเสียงร้องทักของพญากระรอกดำและฝูงนกกระรางหัวหงอก
ดังแว่วมาแต่ไกล ยามประจำป่าทำให้รู้ว่ามีสัตว์ที่ทำให้พวกมันสนใจ... อาจเป็นกระทิง
พญากระรอกหยุดร้อง แต่เสียงฝูงนกดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และเงียบลงเมื่อถึงชายป่า
ข้างๆ โป่ง ผมกวาดสายตาหาจนพบสัตว์คู่หนึ่งกำลังเดินออกมาจากชายป่า
เจ้าตัวที่เดินนำหน้ามีขนาดใหญ่กว่าตัวที่เดินตามมาติดๆ ลวดลายข้างลำตัวและสีสัน
ทำให้ผมนึกถึง “เสือลายเมฆ” แต่เมื่อดูที่ขนาดผมกลับคิดว่ามันอาจจะเป็น “แมวดาว”
...ผมไม่เคยเห็นสัตว์ชนิดนี้มาก่อน
สัตว์ลึกลับทั้งคู่เดินตัดราวป่าลัดเลาะมาตามริมโป่งมุ่งหน้ามาด้านหลังบังไพร สภาพแสงที่
น้อยนิดใต้ร่มเงาของป่าทึบและสภาพป่าดิบที่รกชัฏทำให้ผมชั่งใจว่าจะถ่ายภาพดี
หรือไม่ แต่ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่ามันคือตัวอะไร ผมจึงหยิบกล้องติดเลนส์ ๓๐๐ มิลลิเมตร
ขึ้นมาเตรียมพร้อม ขาตั้งกล้องไม่สามารถใช้งานได้เพราะมีเลนส์ ๕๐๐ มิลลิเมตรติดอยู่บนนั้น
เจ้าตัวที่เดินนำหน้า เข้ามาใกล้บังไพรราว ๑๐ เมตร พอเสียงชัตเตอร์ดังขึ้น มันกระโจน
ไปข้างหน้า และกระโดดสูงกว่าหนึ่งเมตรครึ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่อย่างคล่องแคล่ว
ส่วนอีกตัวหยุดชะงักมองมาที่ผมก่อนจะหลบเข้าป่ารก และไต่ขึ้นต้นไม้ที่ยืนต้นตั้งฉากราว
กับว่ามันวิ่งอยู่บนพื้นดิน
ชั่วอึดใจ ตัวที่หลบอยู่หลังต้นไม้ก็กระโดดลงมาที่พื้นดินจ้องมองผมท่าทางสงสัย พอเสียง
ชัตเตอร์ดังขึ้นอีกครั้งมันก็โก่งตัวทำขนฟูๆ ส่งเสียงขู่ ดูไม่ต่างจากแมวบ้านยามข่มขู่ศัตรู
สักพักจึงผ่อนคลาย หันหลังกลับค่อยๆ เดินจากไป แต่ไม่วายชำเลืองมองมาเมื่อผมกดชัตเตอร์
ครั้งสุดท้าย
ส่วนตัวที่อยู่บนต้นไม้หลบอยู่ในพุ่มทึบ มองเห็นแต่แค่ส่วนตาและใบหน้า จนผมเอาเลนส์ ๕๐๐ อ
อกไปนอกบังไพรเพื่อหามุมถ่าย มันจึงวิ่งลงจากต้นไม้หายเข้าไปในป่าทึบ
เมื่อเห็นภาพจากสไลด์ Lon Grassman จึงแน่ใจว่าเป็น แมวลายหินอ่อน ที่มีน้อยคนนัก
ที่จะได้พบเห็นตัวเป็นๆ ในธรรมชาติ เมื่อเขาเขียนรายงานไปตีพิมพ์ (Marbled cat pair in northeastern Thailand) เขาบอกว่าเป็นรายงานแรกของโลกที่มีคนพบเห็นแมวลายหินอ่อน
สองตัวพร้อมกันในธรรมชาติ
หลายวันมาแล้วที่ผมใช้เวลาตั้งแต่เช้ามืดจรดค่ำ นั่งเงียบๆ ขยับตัวน้อยๆ อยู่ใน
บังไพร ไกลออกไปราว ๕๐ เมตรเป็นโป่งน้ำซับที่อยู่ในหุบล้อมรอบไปด้วยป่าทึบ
ใกล้เที่ยง... ผมเริ่มได้ยินเสียงร้องทักของพญากระรอกดำและฝูงนกกระรางหัวหงอก
ดังแว่วมาแต่ไกล ยามประจำป่าทำให้รู้ว่ามีสัตว์ที่ทำให้พวกมันสนใจ... อาจเป็นกระทิง
พญากระรอกหยุดร้อง แต่เสียงฝูงนกดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และเงียบลงเมื่อถึงชายป่า
ข้างๆ โป่ง ผมกวาดสายตาหาจนพบสัตว์คู่หนึ่งกำลังเดินออกมาจากชายป่า
เจ้าตัวที่เดินนำหน้ามีขนาดใหญ่กว่าตัวที่เดินตามมาติดๆ ลวดลายข้างลำตัวและสีสัน
ทำให้ผมนึกถึง “เสือลายเมฆ” แต่เมื่อดูที่ขนาดผมกลับคิดว่ามันอาจจะเป็น “แมวดาว”
...ผมไม่เคยเห็นสัตว์ชนิดนี้มาก่อน
สัตว์ลึกลับทั้งคู่เดินตัดราวป่าลัดเลาะมาตามริมโป่งมุ่งหน้ามาด้านหลังบังไพร สภาพแสงที่
น้อยนิดใต้ร่มเงาของป่าทึบและสภาพป่าดิบที่รกชัฏทำให้ผมชั่งใจว่าจะถ่ายภาพดี
หรือไม่ แต่ด้วยความที่ไม่แน่ใจว่ามันคือตัวอะไร ผมจึงหยิบกล้องติดเลนส์ ๓๐๐ มิลลิเมตร
ขึ้นมาเตรียมพร้อม ขาตั้งกล้องไม่สามารถใช้งานได้เพราะมีเลนส์ ๕๐๐ มิลลิเมตรติดอยู่บนนั้น
เจ้าตัวที่เดินนำหน้า เข้ามาใกล้บังไพรราว ๑๐ เมตร พอเสียงชัตเตอร์ดังขึ้น มันกระโจน
ไปข้างหน้า และกระโดดสูงกว่าหนึ่งเมตรครึ่งไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่อย่างคล่องแคล่ว
ส่วนอีกตัวหยุดชะงักมองมาที่ผมก่อนจะหลบเข้าป่ารก และไต่ขึ้นต้นไม้ที่ยืนต้นตั้งฉากราว
กับว่ามันวิ่งอยู่บนพื้นดิน
ชั่วอึดใจ ตัวที่หลบอยู่หลังต้นไม้ก็กระโดดลงมาที่พื้นดินจ้องมองผมท่าทางสงสัย พอเสียง
ชัตเตอร์ดังขึ้นอีกครั้งมันก็โก่งตัวทำขนฟูๆ ส่งเสียงขู่ ดูไม่ต่างจากแมวบ้านยามข่มขู่ศัตรู
สักพักจึงผ่อนคลาย หันหลังกลับค่อยๆ เดินจากไป แต่ไม่วายชำเลืองมองมาเมื่อผมกดชัตเตอร์
ครั้งสุดท้าย
ส่วนตัวที่อยู่บนต้นไม้หลบอยู่ในพุ่มทึบ มองเห็นแต่แค่ส่วนตาและใบหน้า จนผมเอาเลนส์ ๕๐๐ อ
อกไปนอกบังไพรเพื่อหามุมถ่าย มันจึงวิ่งลงจากต้นไม้หายเข้าไปในป่าทึบ
เมื่อเห็นภาพจากสไลด์ Lon Grassman จึงแน่ใจว่าเป็น แมวลายหินอ่อน ที่มีน้อยคนนัก
ที่จะได้พบเห็นตัวเป็นๆ ในธรรมชาติ เมื่อเขาเขียนรายงานไปตีพิมพ์ (Marbled cat pair in northeastern Thailand) เขาบอกว่าเป็นรายงานแรกของโลกที่มีคนพบเห็นแมวลายหินอ่อน
สองตัวพร้อมกันในธรรมชาติ